Dolomites - Italy (9D7N)
75,500 บาท
Dolomites via Germany & Austria Trip Outline
กรุ๊ปเล็ก เดินทาง 7-8 ท่าน + Staff คนไทย 1 คน
มีช่างภาพคอยเก็บภาพประทับใจ
ทริปนี้มีการเดินเท้าระยะสั้น (short hike)
ที่พักโดยรวมสะดวกสบายได้ โดยบางเมืองจะนอนรวมกันเป็นบ้านทั้งหลัง เพื่อความสะดวกแก่การเดินทางและความเป็นส่วนตัว
เดินทางวันที่
21-29 กค 2568
28 กค – 5 สค 2568
4-12 สค 2568
ราคาดังกล่าวรวม
– การเดินทางภายในประเทศทั้งหมด โดยรถตู้ 9 ที่นั่ง รวมถึงค่าน้ำมัน ค่าจอดรถ ค่าทางด่วน
– ที่พักรูปแบบ Guesthouse / บ้านทั้งหลังตลอดการเดินทาง
– ค่าเข้าอุทยานและสถานที่เที่ยวตามโปรแกรมทั้งหมด
– ค่ากระเช้า Cable car ขึ้นภูเขาเซเซด้า(Seceda) และ แอล์ปดีซุยซี (Alpe di Siusi)
– สต๊าฟคนไทย / คนขับรถ / ตากล้องประจำทริป
– ประกันอุบัติเหตุและเสียชีวิตเบื้องต้นวงเงิน 1,000,000 บาท
ราคาดังกล่าวไม่รวม
– ตั๋วเครื่องบินไปกลับ กรุงเทพ-มิวนิค (ราคาไปกลับประมาณ 29,xxx บาท ณ วันที่ 20 สค 2567)
– ค่าอาหาร
– ค่าวีซ่า
รายละเอียดทริป
Day 1 – Arrive in Munich. Drive to Ortisei
– เดินทางถึงสนามบินมิวนิค ประเทศเยอรมันนี
เที่ยวในตัวเมืองมิวนิค เก็บสถานที่ไฮไลท์อธิเช่น Marienplatz, English Garden, St. Peter Church
ออกเดินทางต่อขับรถข้ามสู่ประเทศอิตาลี มุ่งหน้าสู่เมืองออร์ติเซ่ในเขตอุทยานแห่งชาติโดโลไมท์(Dolomite National Park) ซึ่งตั้งอยู่ทางภาคเหนือของอิตาลีเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาแอลป์ มีทัศนียภาพสวยงามแปลกตาและยังได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติจากองค์การ UNESCO ตั้งแต่ปี 2009
– เดินเล่นในเมืองออร์ติเซ่(Ortisei) เยี่ยมชมและสัมผัสบรรยากาศหมู่บ้านเล็กๆรวมถึงวัฒนธรรมของชาวท้องถิ่นสีสันพาสเทลสวยงามเหมือนบ้านตุ๊กตาและเมืองแห่งศูนย์กลางของการท่องเที่ยวในแถบอุทยานโดโลไมท์ ซึ่งอยู่ในหุบเขาสูงจากระดับน้ำทะเล 1,300 เมตรใกล้ออสเตรีย วิวเทือกเขาล้อมรอบและอากาศที่บริสุทธิ์
– เช็คอินเข้าที่พัก ณ เมืองออร์ติเซ่
Day 2– Santa Maddalena, Seceda, Seiser Alm, Malga Sanon, St. Valentin Church
– พาท่านเยี่ยมชมหมู่บ้านซานตาแมดดาเลนา(Santa Maddalena) เป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ใต้เงาของเทือกเขาโดโลไมท์ในเมืองเบลลูโนของอิตาลี มีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 370 คนเท่านั้น วิวของหมู่บ้านนี้ยิ่งใหญ่อลังการเหมือนภาพวาด
– ออกเดินทาง เพื่อนั่งกระเช้าขึ้นสู่เทือกเขาเซเซด้า(Seceda)
ที่ความสูง 2,500 เมตร ชมวิวมุมสูงของบ้านเมือง ลานทุ่งหญ้าและเดินเท้าต่อเพื่อขึ้นไปจุดไฮไลท์ ยอดเนินคล้ายเปลวไฟที่แข็งเป็นหิน “Flame frozen in stone” (Seceda to Regensburger Hütte trial)
– ขับรถไปตามทางเยี่ยมชมและเก็บภาพมุมสวยๆ มุมยอดฮิตในเส้นทางโรดทริปนี้ เช่น St.Valentin Church, Seiser Alm(ทุ่งหญ้าบนยอดเขาที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป),Malga sanon
Day 3 – Lago Di Carezza, Saint Ulrich, Val di Funes
– พาทุกท่านชื่นชมความสวยงามของทะเลสาบคาเรซซ่า(Lago Di
Carezza) หรือสายรุ้งแห่งทะเลสาบอยู่ทางตอนใต้ของโดโลไมท์
ทะเลสาบมีหลายเฉดสีตั้งแต่เขียว เทอร์ควอยส์ ฟ้าและน้ำเงิน
รอบล้อมด้วยฉากหลังเทือกเขาโรเซนการ์เทนและลาร์เทมาร์(Rosengarten and Latemar) สะท้อนสีสันหลากหลายของธรรมชาติ
สามารถเดินตามทางเล็กๆรอบทะเลสาบได้
– เดินเล่น ถ่ายรูปย่านใจกลางเมือง
รวมถึงเยี่ยมชมสถาปัตยกรรมสไตล์เรอเนสซองซ์ที่โบสถ์ Saint Ulrich ช็อปปิ้งพักผ่อนตามอัธยาศัย
– ระหว่างทางแวะถ่ายภาพที่เมือง Val di Funes หุบเขาเล็กๆแห่งหนึ่งของโดโลไมท์ตะวันตก มีทิวทัศน์ที่สวยงาม ภาพของโบสถ์สีขาวบนทุ่งหญ้ากว้างสีเขียวที่เเซมด้วยดอกไม้ ฉากหลังคือยอดเเหลมของภูเขาหินปูนของกลุ่มเทือกเขา Odle/Geisler เป็นสัญญลักษณ์ที่เป็นเสน่ห์ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวหลั่งไหลกันมาเยี่ยมเยือนที่นี่กันตลอดทั้งปี
Day 4 – Passo Gardena and Giau
– ขับรถชื่นชมความอลังการและสวยงามของธรรมชาติผ่านเส้นทางปาสโซ่ การ์เดน่า (Passo Gardena)และฟาลเซเรโกพาส(Falzarego Pass) ที่คดเคี้ยวผ่านภูเขาและทุ่งหญ้า อยู่ในเส้นทางสาย Great Dolomite Road
– ขับรถชื่นชมเส้นทาง The Giau Pass เส้นทางขึ้นเขาที่มีชื่อเสียงและมีความสวยงามที่สุด มีความคดเคี้ยวไปตามทางโดยวิวทิวทัศน์ธรรมชาติจะมีความแตกต่างกันไปตามฤดูกาล เชื่อมต่อกับเขต Colle Santa Lucia และ Selva di Cadore เส้นทางนี้เป็นที่รู้จักมากขึ้นเพราะอยู่ในจุดที่ใกล้กับภูเขาที่มีความสำคัญและยังเป็นเส้นทางที่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ธรรมชาติได้อย่างชัดเจน ตั้งอยู่บนทุ่งหญ้าสีเขียว และมีดอกไม้บานสวยงามตลอดทางก่อนมุ่งหน้าสู่เมืองคอร์ติน่า(Cortina D’Ampezzo) เป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่ เป็นเมืองศูนย์กลางการท่องเที่ยวทางด้านตะวันออกของโดโลไมท์ เคยใช้เป็นสถานที่ในการจัดการเเข่งขันกีฬาโอลิมปิคฤดูหนาวและจะจัดอีกครั้งในปี 2026 มีภาพยนตร์ที่เคยถ่ายทำที่เมืองนี้ เช่น The Pink Panther (1963), เจมส์บอนด์ 007 ตอน For Your Eyes Only (1981)
– นำทุกท่านไปเดินเล่นชมวิวทะเลสาบมิซูริน่า(Lake Misurina) ภาพของทะเลสาบที่ถูกใช้ในการโปรโมทการท่องเที่ยวของประเทศอิตาลีมากที่สุด ทะเลสาบน้ำใสราวกับกระจก ซ่อนตัวในหุบเขา สะท้อนภาพภูเขาลงบนผืนน้ำรอบๆทะเลสาบจะมีร้านอาหาร ร้านให้เช่า อุปกรณ์สกี และมีลานสกีตั้งอยู่ไม่ไกลและเดินเท้าต่อเพื่อถ่ายภาพกับทะเลสาบแอนทอโน่(Lake Antorno)
Day 5 – Tri Cime di Lavaredo
– เดินทางไปที่ Tri Cime di Lavaredo เดินเทรคขึ้นไปยอดภูเขาหินปูนสามลูกเรียงติดกัน มีชื่อเสียงและเป็นสัญลักษณ์แห่งโดโลไมท์(Tri Cime di Lavaredo) ประกอบด้วย 3 ยอดเขา Cima Piccola, Cima
Grande และ Cima Ovest(4hr hike)
Day 6 – Lake Braises, Innsbruck
– เดินทางสู่ทะเลสาบเบรียส(Lake Braies, Pragser Wildsee) ทะเลสาบสีเขียวมรกตใสราวกระจกที่ UNESCO จัดให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติและติดอันดับทะเลสาบที่สวยที่สุดในโลก ถูกขนานนามว่าเป็นไข่มุกแห่งโดโลไมท์อยู่ ในเขตอุทยานแห่งชาติ Fanes Sennes Braies เขตป่าสงวนที่ใหญ่ที่สุดใจกลางเทือกเขาแห่งนี้
– มุ่งหน้าสู่ทางสู่เมืองอินน์สบรูค (Innsbruck) หัวใจของเทือกเขาแอลป์ ณ ประเทศออสเตรีย ตั้งอยู่บนที่ราบลุ่มอินน์(Inn Valley) เมืองท่องเที่ยวที่โอบล้อมด้วยภูเขาหิมะขนาดใหญ่และทะเลสาบ อีกทั้งยังมีสถาปัตยกรรมบาโรคสวยงามทั่วทั้งเมือง
– พาเดินเล่นเยี่ยมชม “หลังคาทองคำ (Goldenness Dachl)” สัญลักษณ์สำคัญในเขตเมืองเก่า สร้างขึ้นด้วยความประณีตและมีอายุเก่าแก่กว่า 500 ปี สวยงามแปลกตา มีมูลค่าที่ไม่สามารถประเมินได้, พระราชวังฮอฟบูร์ก(Hofburg Palace), Anna Saule เสาสถาปัตยกรรมงดงามที่สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงการป้องกันการรุกรานของบาวาเรียในปี 1703และช็อปปิ้งตามอัธยาศัย
– เช็คอินเข้าที่พัก ณ เมืองอินส์บรูค
Day 7 – Olpererhütte, Zillertal
– พาทุกท่านเดินทางสู่ซิลเลอทาล (Zillertal) ในเทรลที่ชื่อว่า Olpererhütte ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง ธรรมชาติ หุบเขาในแคว้นทิโรล (Tyrol) ประเทศออสเตรียเที่ยวชมเมืองไมเออร์โฮเฟน(Mayrhofen) เมืองนี้ถูกโอบล้อมด้วยหุบเขา Zillertal ฤดูร้อนในเมืองจะมีทุ่งหญ้าอันเขียวชอุ่ม หุบเขาสลับกับแนวโขดหินและธารน้ำเหมาะสำหรับการเดิน Trekking หรือช็อปปิ้ง เดินเล่นพักผ่อนตามอัธยาศัย ไฮไลท์ของเทรลนี้จะเป็นการถ่ายภาพบนสะพานแขวนและบ้านกระต๊อบที่สามารถมองเห็นวิวอ่างเก็บน้ำ Schlegeis ได้อย่างสวยงามที่สุด
– เข้าที่พัก ณ เมืองอินน์สบรูค
Day 8 – Munich&Depart to Bangkok
-เช็คเอ้าท์ออกจากที่พัก เดินทางไปสนามบินมิวนิค เพื่อขึ้นเครื่องกลับไทย ระหว่างทางแวะซื้อสินค้าที่ระลึกและของฝาก
– เดินทางกลับประเทศไทย
Day 9 – Arrive in Bangkok
– เดินทางถึงประเทศไทย
เงื่อนไขการจอง
โอนเงินมัดจำ ณ วันที่จอง 40,000 บาท โดยส่วนที่เหลือจะเรียกเก็บก่อนเดินทางหนึ่งเดือน ขอสงวนสิทธิ์ให้บุคคลที่โอนมัดจำมาก่อนเป็นการยืนยันสิทธิ์
ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากทางเพจ ‘Explorer’s Hub’
fb.com/explorerhub
Line: @explorerhub
โทร: 080 220 1888