Day 1
– นัดเจอพร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ เตรียมตัวเดินทางไปยังสนามบินนานาชาติเรคยาวิก-เคฟลาวิกประเทศไอซ์แลนด์ (Reykjavik-Keflavik International Airport, Iceland)

Day 2
– ถึงประเทศไอซ์แลนด์
– หลังจากรับกระเป๋าเดินทางซื้อซิมอินเตอร์เน็ตและรับรถแล้ว นำทุกท่านเข้าที่พักในย่านเมืองเรคยาวิก โดยรถโดยสารส่วนตัว(รถตู้ VIP 9 ที่นั่ง)
– นำทุกท่านเที่ยวในกรุงเรคยาวิค เมืองหลวงประเทศไอซ์แลนด์เก็บทุกแลนด์มาร์กสำคัญในตัวเมือง เช่น Hallgrimskirkja, Harpan, SunVoyage
– หากสภาพอากาศเป็นใจ นำพาทุกท่านออกล่าแสงเหนือจากรอบเมืองเรคยาวิค และหากโชคดี อาจได้เห็นแสงเหนือคู่กับ Imagine Peace Tower Light

Day 3
– นำท่านเที่ยวชมความมหัศจรรย์เหนือธรรมชาติของไอซ์แลนด์ ในเส้นทางวงกลมทองคำ(Golden Circle) ทัศนียภาพของทุ่งหญ้าตัดกับทุ่งลาวา มีฝูงแกะ วัว และม้าไอซ์แลนด์หากินอยู่ตามธรรมชาติ นำท่านชมความงามของธรรมชาติที่สรรค์สร้างขึ้นภายในอุทยานแห่งชาติซิงเควลลิร์ (Thingvellir national park) ซึ่งได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติอีกด้วย
– ถ่ายภาพคู่แลนด์มาร์กสำคัญของ Golden Circle เช่น น้ำพุร้อน The Geysir Geothermal Area, น้ำตก Gullfoss, น้ำตก Braurfoss, โบสถ์ Skalholt
– เดินทางเข้าที่พักที่เมืองเรกยาวิค พร้อมออกปฏิบัติการล่าแสงเหนือในเมืองระแวกใกล้เคียง

Day 4
– นำทุกท่านเที่ยวตามเส้นทางด้านใต้(Southern Cost) ของประเทศ ผ่านแส้นทางภูเขาและน้ำตกมากมาย เช่น Hekla Volcano(ทะเลลาวา แลนด์มาร์กแห่งใหม่ของประเทศไอซ์แลนด์), Seljalandsfoss, Skogarfoss, และอีกมากมาย
– ช่วงบ่าย นำทุกท่านเดินทางสู่หมู่บ้านวิค(Vik) หมู่บ้านเล็กๆทางตอนใต้สุดของไอซ์แลนด์ แวะชมหาดทรายสีดำ(Black Beach) ซึ่งเกิดจากการสึกกร่อนของหินลาวาและแนวหินบะซอลต์ นับเป็นหนึ่งในชายหาดที่แปลกตาและมีความสวยงามที่หนึ่งบนโลก ชมความมหัศจรรย์ของแท่งหินที่ตั้งซ้อนขึ้นเป็นทิวแถว ลดหลั่นมากมายริมฝั่งมหาสมุทร
– หายมีแรงเหลือสามารถเดินเทรลไปยัง Sólheimasandur เพื่อถ่ายภาพของเครื่องบินร้างสุดไอคอนนิคของบริเวณนี้
– ก่อนเดินทางเข้าที่พักที่เมือง skaftárhreppur แวะถ่ายภาพพระอาทิตย์ตกที่จุดชมวิว Dyrholaey คาบสมุทรที่เคยเป็นเกาะตั้งต้นของภูเขาไฟ พร้อมออกปฏิบัติการล่าแสงเหนือ

Day 5
– นำทุกท่านเดินทางสู่ทะเลสาบน้ำแข็งโจกุลซาลอน(Jokulsarlon) ทะเลสาบธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ปัจจุบันมีพื้นที่กว้างถึง 18 ตารางกิโลเมตร โดยมีความลึกของน้ำในทะเลสาบถึง 200 เมตร ตื่นตาตื่นใจกับไอซ์เบิร์ก (Iceberg) หรือ ภูเขาน้ำแข็งก้อนโต เรียงรายโผล่พ้นพื้นน้าของทะเลสาบ หากโชคดีจะได้เห็นแมวน้ำอุ๋งๆนอนอาบแดดอยู่บนก้อนน้ำแข็ง
– เดินทางต่อไปยัง Stoksnes หรือภูเขาเวสตราฮอร์น(Vestrahorn)
ภูเขาแห่งนี้ได้รับความนิยมมากในหมู่นักถ่ายภาพแลนด์สเคป
วิวของที่นี่จะเป็นวิวของภูเขามหึมาที่มีความสูงประมาณ 454 เมตร
ตั้งอยู่หน้าหาดทรายดำ
ซึ่งเมื่อเงาของภูเขาสะท้อนลงน้ำจะดูเหมือนเงากระจกสะท้อนน้ำ
–  เดินทางขึ้นเหนือไปยังเมือง Egilsstadir ใช้เวลาประมาณ 6 ชม
ระหว่างทางแวะถ่ายรูปแลนด์มาร์กสำคัญ เช่น Hengifoss, เดินเทรล
Litlanesfoss, Fardagafoss, Stuðlagil Canyon และอีกมากมาย
–  เดินทางเข้าที่พักที่เมือง Egilsstadir พร้อมออกปฏิบัติการล่าแสงเหนือ

Day 6
–  พาทุกท่านไปยังเมือง Akureyri เมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของไอซ์แลนด์ เป็นศูนย์กลางทางการค้า การศึกษาและวัฒนธรรมของภูมิภาค
–  ระหว่างทางแวะถ่ายภาพกับน้ำตกที่ทรงพลังที่สุดของยุโรปรที่ Dettifoss น้ำตกขนาดใหญ่ในอุทยานวัทนาโจกุล(Vatnajökull National Park) อีกหนึ่งไฮไลท์ปลายทางท่องเที่ยวที่สำคัญเป็นอันดับต้นๆของประเทศ อีกทั้งอุทยานแห่งนี้เป็นอุทยานแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป โดยรวมเอาอุทยานแห่งชาติสกาฟทาเฟล(Skaftafell National Park) และอุทยานแห่งชาติ Jokulsargljufur เข้าด้วยกัน ต่อด้วยเก็บภาพทะเลสาบ Mývatn และหากมีเวลา สามารถแช่นำพุร้อนธรรมชาติที่ Mývatn Nature Bath ได้อีกด้วย
–  เดินทางเข้าที่พักที่เมือง Akureyri พร้อมออกปฏิบัติการล่าแสงเหนือ

Day 7
– เดินทางต่อไปยัง Snæfellsnes ซึ่งมีชื่อเล่นว่า Mini Iceland หรือไอซ์แลนด์จิ๋ว เหตุที่เรียกว่าเป็นไอซ์แลนด์ขนาดเล็กนั้น เพราะว่าที่นี่มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติมากมาย ไม่ว่าจะเป็นน้ำตก, ภูเขา, ทะเล, หมู่บ้านตกปลา หรือ แม้แต่ธารน้ำแข็ง ดั่งรวมความสวยงามทั้งประเทศมาอยู่ในคาบสมุทรเดียว ระหว่างทางแวะเที่ยว Hvítserkur rock
– เก็บไฮไลท์ต่างๆในเขต Snæfellsnes เช่น Kirkjunfell, Arnarstapi Cliffs, Ondverdarnes Lighthouse และอีกมากมาย
– เดินทางเข้าที่พักที่เมือง Snæfellsnes พร้อมออกปฏิบัติการล่าแสงเหนือ

Day 8
– เดินทางไปเมือง Kefravik โดยผ่านเมืองหลวงอยู่เรคยาวิกระหว่างทางแวะเที่ยว Barnafossar, Hraunfossar
– เก็บตกสถานที่เที่ยวในเมืองหลวงและแวะซื้อของฝากก่อนจะมุ่งหน้าไปที่พักในเมือง Kefravik
– ระหว่างทาง หากสมาชิกนนใจ สามารถออกเดินสำรวจเส้นทางภูเขาไฟลาวา Fagradalsfjall และแช่น้ำร้อน Blue Lagoon (ค่าใช้จ่ายไม่ได้รวมอยู่ในทริป)

Day 9-10
– เดินทางสู่สนามบินเคฟลาวิคเพื่อนเดินทางไปสนามบินปารีส ชาร์ลเดอโกล เพื่อเดินทางกลับประเทศไทยต่อไป
– เดินทางถึงประเทศไทย